เคยสงสัยกันไหมครับว่าอาการเวียนหัวบ้านหมุน เป็นมานานแล้ว ทำไมถึงยังเป็นๆหายๆ ไม่หายขาดสักที ทั้ง ๆ ที่ก็กินยาตลอด

คนที่มีอาการเวียนหัวบ้านหมุนอยู่ คงรู้ดีว่าเวลาที่มีอาการมันทรมานแค่ไหน รู้สึกบ้านหมุนทุกอย่างรอบตัวหมุนไปหมด มิหนำซ้ำแถมมาด้วยอาการคลื่นไส้ อยากอ้วกกินอะไรก็อ้วกออกมาหมด จะทำอะไรก็ทำไม่ได้อย่างเดียวที่ทำได้คือนอนนิ่ง ๆ แต่อาการก็ใช่จะดีขึ้นแค่ลืมตาขึ้นมาภาพที่เห็นวูบวาบ หมุนเป็นวงกลมทรมานถึงขีดสุด

พอมีอาการก็กินยาอาการก็ดีขึ้นมาบ้าง แต่ผ่านไปไม่นานก็กลับมามีอาการเหมือนเดิม ไปหาหมอก็ตรวจไม่เจอสาเหตุหรือบอกว่าเป็นน้ำในหูไม่เท่ากัน มาหาคำตอบกันครับว่าทำไมอาการแบบนี้ถึงเป็น ๆ หาย ๆ ไม่หายขาดสักที

สิ่งแรกที่ควรรู้คือ ? สาเหตุที่ทำให้มีอาการแบบนี้คืออะไร

สาเหตุของอาการเวียนหัวบ้านหมุน ส่วนใหญ่มากกว่า 90% มักจะมาจากความผิดปกติภายในหูชั้นใน ซึ่งหูส่วนนี้ทำหน้าที่ควบคุมระบบการทรงตัว โดยปกติหูชั้นนี้จะมีของเหลวและแรงดันที่พอดีจึงทำให้เราสามารถทรงตัวอยู่ได้

แต่เมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ระดับน้ำหรือแรงดันภายในหูเปลี่ยนไป หรือมีการอักเสบเกิดขึ้น ทำให้ร่างกายเราเสียสมดุล รู้สึกเหมือนทุกอย่างเคลื่อนที่เป็นวงกลมทั้ง ๆ ที่คุณอยู่กับที่ หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “บ้านหมุน”

ซึ่งอาการเวียนหัวบ้านหมุน สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่มักจะมีปัจจัยอื่น ๆ มากระตุ้นร่วมด้วย

แล้วปัจจัยที่กระตุ้นทำให้เกิดอาการละมีอะไรบ้าง?

ตอนนี้เรายังไม่สามารถรู้ได้แน่ชัดว่าทำไม ระดับน้ำในหูชั้นในมีระดับสูงกว่าปกติแต่ก็พอจะรู้คร่าวๆว่าอาการมักจะกำเริบเมื่อมีสิ่งเหล่านี้เข้ามากระตุ้น

  • อายุที่มากขึ้น – ยิ่งมีอายุมากขึ้น ทำให้เกิดความเสื่อมสภาพของร่างกายตามวัย (ส่วนมากคนที่มีอาการบ้านหมุนจะมีอายุ 40 ปีขึ้นไป)
  • ติดเชื้อไวรัส – หูชั้นกลางอักเสบ หูน้ำหนวก ซิฟิลิส เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ไข้หวัดใหญ่
  • อุบัติเหตุ – เคยประสบอุบัติเหตุศรีษะได้รับการกระทบกระเทือน
  • โรคทางกาย – ภูมิแพ้ ไมเกรน เบาหวาน ไขมันสูง ความดัน
  • ภาวะเครียด – การอดนอน เมื่อยล้า พักผ่อนไม่เพียงพอ
  • เครื่องดื่ม – ชา กาแฟ เหล้า เบียร์ รวมถึงการสูบบุหรี่
  • การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน – การมีประจำเดือน หรือวัยหมดประจำเดือน

ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้อาการกำเริบได้ทั้งสิ้น 

คำถามต่อมาคือ..ก็กินยาตลอดทุกครั้งนะแต่ทำไมยังมีอาการอยู่ตลอด ไม่หายขาดสักที ?

นั้นก็เพราะยาที่ใช้รักษาส่วนใหญ่จะใช้ยาในการระงับอาการชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้ช่วยรักษาที่ต้นเหตุจึงทำให้อาการยังเป็นๆหายๆ ยาที่ใช้หลักๆได้แก่

  • ยาแก้เมาหรือแก้วิงเวียน
  • ยาขับปัสสาวะ
  • ยานอนหลับ
  • ยาขยายหลอดเลือด

ทั้งหมดนี้เป็นยาที่ใช้ในการรักษาโรคน้ำในหูไม่เท่ากันซึ่งไม่เถียงว่ามันใช้ได้ผลจริงแต่ไม่ทำให้หายถาวร เนื่องจากตัวยาจะเข้าไประงับอาการได้ชั่วคราวเท่านั้น พอเวลาผ่านไปสักพักอาการก็จะกำเริบขึ้นมาอีกนั้นก็เพราะ…อนุมูลอิสระมีมากเกินไป

อนุมูลอิสระ ก็คือ โมเลกุลที่ไม่สเถียรขาดความสมดุลเป็นตัวทำลายเซลล์ของร่างกายให้เกิดความเสียหาย(หรือตัวการที่ทำให้ร่ายกายทำงานผิดปกติ)

ตัวอนุมูลอิสระนี่แหละที่เป็นตัวการทำให้เกิดความผิดปกติภายในหูชั้นใน เนื่องจากเข้าไปทำลายเซลล์ระบบประสาทควบคุมการทรงตัวส่งผลให้ระดับน้ำในหูชั้นเกิดความผิดปกติ

“แต่การรักษาส่วนใหญ่มุ่งเน้นแต่การควบคุมอาการไม่ให้กำเริบ ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุแต่อย่างใดจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้อาการยังเป็นๆหายๆไม่หายขาด”

หากคุณกำลังมีอาการ เวียนหัวบ้านหมุน เป็น ๆ หาย ๆ ไม่หายขาด

ผมขอแนะนำ Balance Ucore ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก

ยูคอร์เป็นอาหารเสริมสกัดจากสมุนไพรทั้งหมด 13 ชนิด ซึ่งเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยป้องกันการทำลายเซลล์จากสารอนุมูลอิสระ ต้นเหตุที่ทำให้เกิดความผิดปกติภายในหูชั้นใน ทำให้คุณมีอาการเวียนหัวบ้านหมุน และยังช่วยรักษาการอักเสบ ช่วยให้หูชั้นในทำงานได้อย่างเป็นปกติ

และยังมีฤทธิ์ช่วยต้านเชื้อไวรัสหลายชนิด รักษาอาการอักเสบภายในร่างกาย ช่วยในเรื่องการนอนหลับ ช่วยฟื้นฟูความผิดปกติภายในร่างกาย เพิ่มภูมิคุ้มกันทำให้ไม่ป่วยหรือไม่สบายได้ง่าย ลดความเครียด บำรุงสมอง ซึ่งไม่มีในยาทั่วไปที่ใช้รักษาอาการเวียนหัวบ้านหมุน

**นี่คือเหตุผลว่า ยูคอร์ สามารถยับยั้งและป้องกันอาการเวียนหัวบ้านหมุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้อาการกำเริบได้อย่างถาวร ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเห็นผลจริงแม้กระทั่งผู้ที่เป็นมานานหลายปี**

หยุดความทรมานที่ทำลายชีวิตคุณได้แล้ววันนี้ ให้คุณมีความสุขกับการใช้ชีวิตได้เต็มที่ไม่ต้องมาคอยระแรงว่าอาการจะกำเริบอีกตอนไหน

เพียงทาน ยูคอร์ วันละ 1 เม็ดก่อนนอน เท่านั้นคุณก็มีชีวิตที่ดีขึ้นได้